วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2555

หมู่บ้านซาไก ป่าบอน 1

การกินอาหารของซาไก

ในแต่ละวันชนเผ่าซาไกจะล่าสัตว์และขุดมันเทศเพื่อนำมาเป็นอาหาร สัตว์ที่ล่ามาได้ในแต่ละวัน พวกเขาจะกินหมดสิ้นเพียงวันเดียว "มีชีวิตอยู่เพื่อวันนี้เท่านั้น" โชคดีวันนี้ล่าสัตว์ได้ เผ่าซาไกจะไม่โลภเมื่อหาสัตว์ได้ตัวหนึ่งก็กินแค่ตัวเดียวเท่านั้น พรุ่งนี้ยังแสงตะวันขึ้นพวกเขาจะเข้าป่าเพื่อไปหาใหม่ พวกเด็กๆซาไกที่่ไม่สามารถเข้าป่าไปหาอาหารได้ก็จะเฝ้าเพิงที่พักและขุดมันเพื่อมาบดเป็นแป้งไว้ทานตามประสา นำมาเผาาเพื่อกินกับเนื้อสัตว์

ผูกมิตรสัมพันธ์กับชาวบ้าน

ชนเผ่าซาไกจะไม่ทำร้ายใครเพราะพวกเขาชอบใช้ชีวิตแบบสันโดด ไม่ยุ่งเกี่ยวกับพธุชนภายนอก แต่ตอนนี้ที่ชุมชนหมู่บ้านเผ่าซาไกที่ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมดูวิถีชีวิตการอาศัยอยู่ของพวกซาไก และพร้อมเยี่ยมชมธรรมชาติที่แสนงดงามยิ่ง ตามแนวเทือกเขาบรรทัด ชาวบ้านล้วนเป็นมิตรที่ดีต่อกันแม้ว่าไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในเผ่าก็ตาม ชาวบ้านมักจะนำข้าวสาร อาหารแห้งและเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มมาให้ ซึ่งแม้ความแตกต่างกันของเผ่าพันธ์ จะไม่มีอุปสรรคใดที่บ่อนทำลายความเป็นมนุษย์ที่ดีต่อกันของคนในสังคมไทยได้เลย

เพิงพำนักที่พักพิง 
ซาไกเป็นชนเผ่าหนึ่งที่รู้จักการนำใช้ป่าไม่ให้เป็นประโยชน์บ้านที่พักอาศัยแม้นว่าจะเพิกด้วยใบไม้ใบหญ้า แต่ที่กั้นฝาจะทำด้วยไม้ขนิดหนึ่งที่สามารถนำมาสานลายขัดเพื่อความสวยงามและกันรูรั่วได้ ความคิดแบบภูมิปัญหาชาวเผ่าที่ไม่มีใครสอนแต่ได้รับการบ่มเพราะมาแต่สมัยอดีตกาลชะลอมสะพาย  ล้วยแล้วแต่สานตามลวดลายต่างๆเพื่อปรโยชน์ต่อการใช้สรอย ทั้งสิน ชาวซาไกจะมีความไวในการเดินป่าเป็นอย่างยิ่ง บางครั้งมีการเดินทางไปเยี่ยมชนเผ่าเดียวกันอีกฝั่งหนึ่งของเทือกเขาบรรทัดซึ่งเป็นแนวต่อของอีกหลายจังหวัด 


เด็กชาวซาไกพวกนี้ไม่ได้เรียนหนังสือไม่รู้จักตำราแต่พวกเขาเน้นการดำเนินชีวิตด้วยการใช้ประสบการณ์จริงในการอยู่รอดของพ่อแม่ เพื่อเป็นแนวทางการสอนของรุ่นต่อไป เด็น้อยใช้ชีวิตในช่วงกลางวันเพื่อสร่างเพิงพำนักพักพิงแบบเด็กๆแต่สามารถใช้งานได้จริง และขุดมันเพื่อนำมาเป็นอาหาร

ในป่าที่ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำปะปา ไม่มียารักษาโรคแต่ซาไกอยู่รอดได้ 
การก่อกองไปเพื่อส้รางความอบอุ่นในตอนกลางคืน ซาไกจะใช้วิธีการนำไม้สองอันนมาประกอแล้วนำไม้กลมมาปั่นใช้ฝอยไม้แห้งเป็นแหล่งเชื้อเพลิง จากนั้นก้อปั่นจนเกิดประกายไฟ แล้วสุ่มด้วยใบไม้แห้งบ้าง กิ้งไม้บ้าง ตามประสา นำที่ใช้อาบก็จะเป็นสายน้ำเล็กกที่ไหนมาตามลำหวย ขัดตัวถูไครด้วยก้อนหินเล็กๆ อัตราการขยายเผ่าพันธ์ของซาไกลดน้อยลงมากหลังจากที่เมื่อก่อนประชากรซาไกมีมากกว่านี้

การเกิดการตายของซาไก
นายยงยุทธ เขมาววานิช ซึ่งเป็นบุตรชายของนายนิวรณ์เล่าว่า พวกเผ่าซาไกเมื่อมีคนใดใกล้ตายแล้วพวกนี้จะนำร่างไปทิ้งไว้ที่ไกลจากเพิกพำนักและตั้งน้ำใส่กระบอกไม้ไฝ่ไว้ดื่ม ต้นชันหัวมันที่ขุดได้รมควันไว้ให้ทาน หากอยู่รอดปลอดภัยก็ได้ทานเพื่อเป็นแรงกำลังกลับมาแต่หากร่างกายไม่ไหวก็ตายไปในที่สุด ศพซาไกจะไม่มีการนำไปเผ่าหรือฝั่งแต่พวกเขาจะทิ้งร่างให้เน่าเปื่อยและย่อยสายลงในดินตามธรรชาติ เผ่านี้ไม่ค่อยมีความเชื่อในเรื่องผีสางพวกเขาเลยไม่มีความกลัวแม้แต่น้อย

วันอังคารที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2555

เงาะป่าซาไก

ชนกลุ่มน้อยระหว่างรอยต่อ 4 จังหวัดภาคใต้ชนเผ่าซาไก หรือที่เรียกรวมว่า "เงาะป่า" ยังมีอยู่ในประเทศไทยทางตอนใต้บริเวญเขตจังหวัด พัทลุง สตูล ตรัง และนราธิวาส ตามแนวเทือกเขาบรรทัด โดยอาศัยอยู่เป็นกลุ่มตามพื้นที่ต่าง ๆ ชนเผ่าซาไก ใช้ชีวิตอยู่ในป่าได้อย่างไร หลายคนสงสัย แต่ไม่ให้ความสำคัญกับชนเผ่าพวกนี้ สังคมที่มีความแตต่างกันระหว่างสังคมในโลกความเป็นจริงที่มีการใช้เทคโนโลยีและเงินตราเป็นสิ่งเชื่อม กับสังคมที่ใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายไม่มีการใช้จ่ายด้วยเงินตราอยู่อย่าง "พอเพียง เลี้ยงยตนรอด"

ความเป็นมา
ก่อนอดีตกาลเราไม่รู้หรอกว่าพวกซาไกเกิดขึ้นจริงเมื่อใด แต่หากตามประวัติศาสตร์ก็ดังที่มีกล่าวไว้ใน สมัย รัชกาลทที่ 5 มาจนถึง ณ ปัจจุบันนี้ 
ชนเผาผิวดำ ผมหยิก หน้าคล้าย อยู่ได้อย่างไร
เมื่อครั้งหนึ่งได้เดินทางไปเที่ยวที่ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวหนึ่งที่น้อยคนอยากจะไปเยี่ยมชมคือหมู่บ้านซาไก ที่มาสร้างกลุ่มเพื่อหาที่พักพิงบริเวญนี้ ซึ่งนายนิวรณ์ เขมาวานิช ตนมีครอบครัวที่อาศัยอยู่ในบริเวญแถบชายป่าเทือกเขาบรรทัด ตนเล่าให้ฟังว่า ตนเดินทางเข้าป่าไปล่าสัตว์และเจอโดยบังเอิญตนพูดภาษาของซาไกไม่ได้แต่ด้วยความมีสติ เมื่อตนเจอเหตุกาณ์นี้ ตนก็แกล้งทำเป็นหลงทางมาสมาณมิตรกับพวกซาไก โดยใช้ภาษามือบอกไบ้ พวกซาไกมึนงงแต่พร้อมให้ความช่วยเหลือ เผ่าซาไกไม่ค่อยชอบยุ่งกับเผ่าใดในโลกพวกเขาชอบอยู่แบบวิถีชีวิตเขา




ลัษณะการใช้ชีวิตของซาไก
เผ่าซาไกอาศัยอยู่ในป่ามาช้านานหากให้เปลี่ยนวิถีชีวิตมาอาศัยอยู่ตามบ้านเรือนคงยาก เมื่อครั้งก่อนที่มีการพบเห็นซาไกพวกนี้จะใช้ใบไม้นำมาเป็นผ้าคลุมกาย บ้างก้อไม่ใส่อะไรเลย ที่พักอาศัยในการหลับนอนจะนำใบไม่้ ก้านไม้มากั้นทำผนังเชิงเพิงเพื่อกันแดดกันฝน การกินอยู่ก็จะใช้การขุดมันในป่า ล่าสัตว์เพื่อนำมาเป็นอาหารเลี้ยงชีพ นายนิวรณ์เล่าใให้ฟังว่า ":เผ่าซาไกมีวิถีชีวิตที่แตกต่างกับเราในหลายเร่องเช่นเรื่องการกินอยู่ เมื่อพวกเขาล่าสัตว์หรือหาอาหารมาได้พวกเขาจะกินกันจนหมโดยไม่มีการเก็บตุนไว้เพื่อวันข้างหน้า หาได้มาก็ใช้หมด มีคนถามกลับไปว่าทำไม่ไม่เก็บเผื่อไว้บ้าง ซาไกคนหนึ่งที่พอจะพูดจาเป็ฯภาษาที่เราเข้าใจกล่าวว่า เราอยู่เพื่อวันนี้ ไม่ได้อยู่เพื่อวันข้างหน้าและอนาคต" จากแนวคิดของชาวเมืองอย่างเราก็พอเข้าใจลักษณะที่พวกเขาเป็น 
ติดตามต่อในสกูปเล็กๆ เด็กราชมงคลศรีวิชัย